มิยอ.. . ของฉัน(1)
- - - - - - - - - - - -
เรื่องจริง เหตุการณ์จริง สถานที่จริง เวลาจริง ... แต่คนปลอม..
เรื่องของแมว... ชื่อ มิยอ ซึ่งเดิมเป็นแมววัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร
แล้วเคราะห์กรรม ทำให้เกิดโชค ได้มาอยู่กับคุณแก้ว ทำให้ มิยอ ได้พบกับชีวิตใหม่ สถานที่ใหม่
คนใหม่ และเหตุการณ์ใหม่ๆในชีวิต เมื่อชีวิตต้องเปลี่ยนผันชั่วข้ามคืน มิยอต้องปรับตัว ปรับใจ ปรับพฤติกรรม
ให้เข้ากับชีวิตใหม่ ที่ต้องดำเนินไป
บางคนบอกไว้ว่า ชีวิตเลือกได้ แต่บางครั้งชีวิตมันก็เลือกทางของมันเอง...
มิยอ.. . ของฉัน(1)
ตอน ไปหาหมอ
---------------
16 มิถุนายน 2550
“ แก้วมาแล้วเหรอ “ ยายสา แม่ชีอาวุโส ที่คุ้นตากันทัก พร้อมกับยิ้มสวย
“ สวัสดี ค่ะคุณยาย “ พี่แก้วยกมือไหว้ ทักทายคุณยายสา
“แมวตัวนั้น ดูท่าจะไม่สบายนะ มันไม่ยอมกินข้าว นั่งซึมอยู่ที่เสาแน่ะ “ ยายสาพูดถึงแมว ตัวที่พี่แก้วได้ช่วยไว้เมื่อสามวันก่อน
พี่แก้วมองตามที่เสายายสาบอก แมวสีขาว-ดำ ตัวเดิมนั่งพับเพียบ ชันขาหน้า นั่งซึมอยู่ที่เสาหลังศาลา พี่แก้วรีบเดินเข้าไปหา พอพี่แก้วเดินเข้าใกล้ แมวขาว-ดำ ลืมตามองหวาดๆ
พี่แก้วเดินไปหาเจ้าแมวขาว-ดำด้วยความดีใจ นั่งลงใกล้ๆ แมวขาว-ดำ กลิ่นเหม็นโชยเข้าจมูก พี่แก้วยื่นมือไปลูบหัว แมวขาว-ดำก้มหัวลง หลับตา พี่แก้วเห็นคราบสีเหลืองที่ขาหลังแมวขาว-ดำ คงเป็นคราบจากเหตุการณ์วันก่อนที่พี่แก้วได้ช่วยแมวขาว-ดำตัวนี้ไว้
“ หายไปไหนมา... เมื่อวานเดินหาซะทั่ว ไม่เห็นเลย.. ไม่ไปอยู่กับลูกล่ะ.. “ พี่แก้วคุยกับเจ้าแมวขาว-ดำ
แต่วันนี้ดูเจ้าแมวจะไม่มีแรง เซื่องซึม แล้วก็ตัวเหม็นมาก พี่แก้วเอื้อมมือไปจับตัวมัน แมวตัวอ่อนปวกเปียก เหมือนคนไม่มีแรง แล้วทิ้งตัวลงหมอบกับพื้น หลับตา มีเสียงครางเบาๆ
พี่แก้วเริ่มรู้สึกว่า แมวขาว-ดำ ตัวนี้กำลังป่วยหนัก (“ทำไงดีล่ะ ทีนี้? “) พี่แก้วเดินไปที่รถ หยิบโทรศัพท์ กดโทรออก
“ พี่ต้น แมวตัวที่พี่แก้วช่วยมันเมื่อวันก่อน มันป่วยหนักน่ะ พี่แก้วพามันไปหาหมอนะ “
“ เอาสิ ถ้ามันป่วยมากก็พาไปหาหมอ แถวนี้คงมีร้านสัตวแพทย์ ลองหาดู “
“ งั้นแค่นี้ก่อนนะ จะได้รีบพามันไปหาหมอก่อน “
พี่แก้วคว้ากระเป๋าผ้าสีดำทรงสี่เหลี่ยมแข็ง ที่ปกติใช้ใส่ของไว้ในรถติดมือไปด้วย (“ คงจะใช้ใส่แมวได้น่า “)
พี่แก้วเดินไปหาแมวขาว-ดำ ซึ่งยังหมอบนิ่งอยู่ที่เสา พี่แก้วอุ้มแมวขาว-ดำ ขึ้นมาตัวมันอ่อนปวกเปียก ยอมเข้าไปนอนในกระเป๋าอย่างไม่ขัดขืน (“คงจะป่วยมาก เพราะปกติแมววัดไม่ยอมให้ใครจับตัวมันได้ง่ายๆ“)
พี่แก้วหิ้วกระเป๋าใส่แมวเดินไปที่รถ สวนกับพระรูปนึงที่ทางเข้าศาลา
“ จะเอาแมวไปไหนเหรอโยม “ พระท่านทักขึ้นก่อน
“ จะเอาไปหาหมอค่ะ แมวมันไม่สบายมาก ไม่ยอมกินข้าว นั่งไม่กระดุกกระดิกเลย “
“ เอาไปที่ร้านสัตวแพทย์ที่ สามแยก ที่เลยเสถียรธรรมสถานมาหน่อยนึงสิ มีร้านสัตวแพทย์อยู่ อาตมาเคยพาหมาไปรักษาที่นั่น “
“ ขอบคุณมากค่ะ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะพาไปหาหมอที่ไหน ขอพาแมวไปหาหมอก่อนนะคะ “
พี่แก้วรีบไปที่รถ ขับไปร้านหมอที่ตึกตรงสามแยก ก่อนถึงวัดศิริพงษ์ฯ ชั้นบนด้านหน้าเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยวัชรพล ข้างในเป็นร้านทีวีไดเร็ก ที่ขายของตามรายการโฆษณาทางโทรทัศน์ พวกเครื่องออกกำลังกาย “ โอ้.. พระเจ้าจอร์จ.. มันเยี่ยมมาก นั่นแหละ “
พี่แก้วหิ้วกระเป๋าใส่แมวเข้าไปในร้านหมอชั้นล่าง มีหมอผู้หญิงเข้ามาต้อนรับพร้อมทั้งซักประวัติแมว
“ แมวชื่ออะไรคะ? “
“ ไม่มีชื่อค่ะ เป็นแมววัด เห็นมันป่วยเลยพามาหาหมอ “ พี่แก้วตอบ ( ก็ไม่รู้นี่ว่ามันชื่ออะไร เพิ่งจะได้เจอกันเมื่อสามวันก่อนเอง ยังไม่ได้ถามมันเลยว่าชื่ออะไร)
หมอเขียนลงในใบประวัติ ชื่อ "แมว"
“ แล้วมันเป็นอะไรคะ? “
“ เมื่อสามวันก่อนมันออกลูกค่ะ ออกมาสามตัว แล้วเมื่อวานก็ออกมาอีกตัว วันนี้ไปเจอก็ไม่ยอมกินข้าว นั่งเฉยไม่กระดุกกระดิก “
หมอนก ชื่อหมอรักษาแมวขาว-ดำ)ซัก และเขียนรายละเอียด อื่นเพิ่มเติม แล้วก็เอาเจ้าแมวขาว-ดำ เข้าไปห้องตรวจ จับหนังที่หลังแมวขาว-ดำดึงตัวแมวขึ้นแล้ววางลงบนโต๊ะตรวจ เอาปรอทวัดไข้เสียบก้นแมวขาวดำ แล้วก็ตรวจดูส่วนต่างๆ
พี่แก้วเพิ่งจะได้พิจารณาแมวขาว-ดำใกล้ๆ ถึงได้รู้ว่ากลิ่นเหม็นที่ตัวแมวขาว-ดำ เป็นกลิ่นเหม็นเน่ามาจากตัวแมวขาว-ดำ แล้วก็มีน้ำเหลืองปนเลือดไหลเยิ้มออกมาจากจิ่มแมวขาว-ดำด้วย หมอนกเช็ดจิ๋มแมว ตรวจดูทั่วๆ เอาปรอทออกจากก้นแมว มีไข้สูง แล้วก็พาแมวขาวดำไปเอ็กซ์เรย์ และให้น้ำเกลือ
พี่แก้วนั่งรออยู่ข้างนอก หมอนกออกมา
“ เอ็กซ์เรย์ดูแล้ว ไม่มีลูกเหลืออยู่ในท้อง คงจะป่วยเพราะติดเชื้อ เห็นบอกว่ามีลูกออกมาที่หลังอีกตัวด้วยเหรอ “
“ ค่ะทีแรกมันออกลูกมาสามตัว ตัวใหญ่ด้วยค่ะ แล้วอีกสองวันก็ออกมาอีกตัว “
“ ไอ้ตัวที่ออกมาทีหลังนี่ไม่น่ารอดเลยนะ อยู่ในท้องอีกตั้งสองวัน ปกติไม่ค่อยรอดหรอก “
“ หมอลองให้ยามันกินแล้วมันกินยาไม่ได้ เลยต้องฉีดยาจะได้หาย ให้พามาฉีดยาทุกวันนะจนกว่าจะหายไข้ คงประมาณสี่ห้าวัน “
“ ขอบคุณค่ะ “ พี่แก้วจ่ายเงินค่ารักษา ได้นมแพะมากระป๋องนึงด้วย พร้อมกับสลิงฉีดยาอันเล็ก เผื่อให้ลูกแมว กับปลากระป๋องสำหรับแม่แมว แล้วพาแมวขาว-ดำ ไปที่วัด
(“ แล้วทีนี้เอาไงต่อดีหว่า... แมวมันไม่ยอมกินข้าว ไหนจะลูกมันอีก ต้องพาไปหาหมอทุกวันอีก..??? “)
พี่แก้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
“ พี่ต้น.. แก้วเอาแมวขาว-ดำ กับลูกไปบ้านนะ ต้องพาไปหาหมอทุกวันด้วย... .. ... “
พี่แก้วไปที่ศาลา ไปที่เก้าอี้สำหรับพระเทศน์ ที่เก็บไว้หลังศาลามีผ้าสีเหลืองคลุมไว้มิดชิด
พี่แก้วเปิดผ้าสีเหลืองออก แมวน้อยสี่ตัว เป็นแมวดำตัวนึง แมวดำ-ขาวสองตัว อีกตัวลายเสือสีเทากากี ตัวนี้แหละที่ออกมาที่หลัง แมวทั้งสี่คลานกันไปมาส่งเสียงร้องเบาๆ คงจะตามหาแม่ ไม่รู้แม่หายไปไหนตั้งนานแล้วไม่มาซะที
พี่แก้วเอามือนึงดึงชายเสื้อยืดด้านหน้าออก อีกมือจับลูกแมวทีละตัว วางลงที่ชายเสื้อ ลูกแมวทั้งสี่คงกลัว นอนกันนิ่ง พี่แก้วปิดผ้าคลุมเก้าอี้ลง มือประครองชายเสื้อไว้รีบเดินไปที่รถ แล้วเอาลูกแมววางลงในกระเป๋าอีกช่องนึง (“ พอดีเลยกระเป๋ามีสองช่อง ใส่ลูกแมวได้อีกช่องนึงพอดี “)
พี่แก้วรีบขับรถกลับบ้านไม่ไกลจากวัดนัก แวะซื้อลังกระดาษที่ร้านโชห่วยเจ๊หน้าทางเข้าหมู่บ้าน เจ๊แถมฝาลังสำหรับแพ็กเบียร์กระป๋องมาให้อีกอันนึง แหมใจดีจัง ที่ค่าลังใส่เหล้าคิดซะแพงใบละสิบบาทแน่ะ
พี่แก้วถึงบ้านหิ้วกระเป๋าใส่แมวๆ เข้ามาในบ้าน (“ เอาหละสิ.... จะเอาไว้ที่ไหนดีล่ะ???.. “)
กวาดตามองไปรอบๆ ในบ้าน (“ เอาไว้ไหนดีหว่า..?? เอาตรงนี้ก็แล้วกัน แมวขาว-ดำ มันคงชอบน่า.. “) คิดอยู่พักนึงก็จัดการดึงเก้าอี้ที่มีล้อเลื่อน ออกจากโต๊ะไม้ตัวใหญ่ที่เคยบ่นว่าเกะกะ น่าจะเอาไปทิ้งซะหลายครั้ง โต๊ะไม้อัดโครงเหล็กตัวใหญ่ มีตู้สองข้าง ตรงกลางเป็นช่องสำหรับนั่ง มีตัวหนังสือสีขาวพ่นไว้ที่หน้าโต๊ะ ส.พ.ก.3320 พี่แก้วเคยสงสัยว่าพ่อไปขนมาจากไหนนะ
พี่แก้ววางลังกระดาษลงใต้โต๊ะ อุ้มแมวขาว-ดำที่ยังนอนนิ่งออกจากกระเป๋าวางข้างใน แล้วหยิบลูกแมวที่เริ่มชะเง้อยืดคอไปมาในกระเป๋าออกมาวางไว้กับแมวขาว-ดำ
แมวขาว-ดำ มองพี่แก้วหยิบลูกแมวทีละตัวไม่วางตา พอวางลูกแมวลงที่ตัวแมวขาว-ดำ มันก็รีบเลียตัวลูกแมวทุกตัว เลียไปก็หันมามองพี่แก้วที่นั่งดูอยู่สลับกันไป พี่แก้วดันเก้าอี้มาบังไว้ที่หน้าโต๊ะ ให้แมวอยู่กันส่วนตัว.
'sing', 'มิยอ.. . ของฉัน(1) ตอน ไปหาหมอ 2007-09-17 / 12:42:14